พงศาวดารของ darkul

darkul

Member
คะแนน react
0
พี่น้องที่เกลียดกัน
ข้า darkul น้องของ darksideแห่งk75 ข้ามิอาจทนวิธีปปกครองของพี่ข้าได้ ทรราชผู้บ้าสงคราม เขานำพาผู้คนไปสู่ความตาย
tempbattle.jpg


ข้าจึงนำผู้คนที่สบับสนุนข้าอีกด้วยอีก100คนหนีมาทางตะวันออกจนมาถึง(721|741) K77
ข้าเห็นว่าที่นี้สงบห่างไกลจากอำนาจของdarksideผู้เป็นทรราช ข้าให้คนของข้าเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์
"เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี้ เราจะมีชีวิตที่สงบ ปราศจากสงคราม จะไม่มีใครสูญเสียคนอันเป็นที่รักอีกต่อไป"
ข้าประกาศก้องให้ทุกคนได้ยินในวันที่ 13 กรกฎาคม
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
แผ่นดินผู้ลี้ภัย
หลังจากที่เราปักหลักได้ไม่นาน ข้าก็นำคณะสำรวจไปพบแร่เหล็กคุณภาพดีที่หุบเขาทางเหนือของหมู่บ้าน เหล็กจากที่นี้ทำให้เรามีอุปกรณ์การเกษตรที่ดีขึ้น
Phade.jpg

ทำให้ผลิตอาหารได้มากขึ้น จนรองรับผู้ลี้ภัยสงครามจากที่ต่างๆ เราให้ที่พักเมล็ดพันธ์และจอบเสียมกับพวกเขา
drought3.gif

"ถึงเราจะช่วยท่าน แต่ท่านก็ต้องช่วยตัวเองด้วย"
ข้าพูดกับผู้ลี้ภัยทุกคน
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
ความช่วยเหลือจากเอลฟ์
ในช่วงเย็นวันนี้ข้าสำรวจป่าท้ายหมู่บ้านอยู่เพียงผู้เดียว ข้าก็คิดกังวลถึงความปลอดภัยของผู้คนของข้า ถึงแม้ที่นี้จะห่างไกลจากพ้นที่สงคราม แต่ที่แถวนี้ก็มีชนป่าเถื่อนอาศัย ข้าหวั่นเกรงภัยจากกองโจรปล้นสะดม คนของข้ามีผู้หญิงกับคนแก่เป็นส่วนมาก ถึงเราจะมีเหล็กชั้นดีแต่เราไม่มีช่างตีอาวุธ ขณะที่ข้ากำลังครุ่นคิดตัวข้าก็เสมือนอยู่ในภวังค์ ข้ารู้สึกมีคนต้องการจะพบข้า และข้าจะต้องไปหาเขาในตอนนี้ ข้าเดินไปเข้าป่าแหวกพงไม้ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
"darkul ข้ารอท่านอยู่"
เสียงนั้นทำให้ข้าตื่นจากภวังค์ ข้าพบผู้หญิงสูงเพรียวถือตะเกียงสีเขียวส่องประกายยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใหญ่ที่สุดที่ข้าเคยเจอในชีวิตข้า ข้ามองหน้าของนาง ใบหน้าเรียวผิวเนียนหมดจด ผมยาวเป็นลอนถึงกลางหลัง หูของนางปลายแหลม นางเป็นเอลฟ์!!
bf5688c62e74fe4f.jpg

"รู้จักข้ารึ"
"ใช่ เราจำเป็นต้องเรียนรู้พวกท่าน ข้าหมายถึงมนุษย์ เพื่อเผ่าพันธ์ของเราเอง"
ข้ามองนางด้วยความสนเทศก่อนที่ข้าจะเอ๋ยปาก นางก็พูดก่อน
"ท่านบุกรุกถิ่นอาศัยของเรา ข้ารู้ว่าท่านมีความจำเป็นและสภาของเรามีมติให้เราย้ายถิ่นที่อยู่"
"ข้าเสียใจ ปัญหาของเราทำให้พวกท่านเดือดร้อน"
"เรากระจ่างในเหตุผลทั้งปวงของท่าน และทราบถึงเรื่องที่ท่านกลัดกลุ้มในตอนนี้ ก่อนที่เราจะจากไป ข้าจะร่ายมนต์อำพรางหมู่บ้าน จะมีผลทำไม่มีผู้ใดเห็นพวกท่านในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในช่วงเวลานั้นเราจะส่งช่างโลหะของเราไปสอนเทดนิคการทำอาวุธให้แก่คนของท่าน"
"ข้าขอขอบคุณจากใจจริงกับสิ่งที่พวกท่านมอบให้"
"มิเป็นไร ทุกอย่างเป็นไปตามมติ"
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็ยกตะเกียงขึ้น แสงจ้าแปร่งมาจากตะเกียงแล้วข้าก็หมดความรู้สึกไป
ข้าพบว่าตัวเองตื่นขึ้นที่ชายป่า เรื่องทั้งหมดราวกับเป็นความฝัน แต่ข้าก็พบเอลฟ์หนุ่มสองตนนั่งเฝ้าอยู่ห่างๆ
 
แก้ไขล่าสุด:

godeye

New Member
คะแนน react
0
หนุกมากครับรอติดตามต่อไปแต่พอมาสรุปแบบเกมดูแล้วมันก้ฮาดีนะ
1.แยกตัวจากเผ่าของพี่(ควาดว่าน่าจะกดเล่นใหม่)
2.ได้มาอยู่ทวีป(721|741) k77
3.ทางเหนือของหมู่บ้านมีหมู่บ้านโบนัสเพิ่มอัตราการถลุงแร่อยู่ละมั้ง
4.อยากสร้างทหารใหม่ๆต้องใช้โรงตีเหล็ก
5.เล่นไปซักพักถึงพึ่งรู้ว่าเวลาเล่นใหม่มันมีบาเรียคุ้มกัน

ใช่ไหมครับ

หนุกมากน่าติดตามครับเอามาลงอีกนะ
 

darkul

Member
คะแนน react
0
ความช่วยเหลือจากเอลฟ์(2)
คัลมาร์และดอร์ลานาคือชื่อของเอลฟ์หนุ่มทั้งสอง ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขาเราก็มีโรงตีเหล็กเป็นของตัวเอง แม้ต่างเผ่าพันธ์แต่เราเป็นมิตรที่ดีต่อกัน คัลมาร์นอกจากจะป็นช่างโลหะแล้วเขายังสอนข้าเรืองการปกครอง การวางแผนและโครงสร้างหมู่บ้าน ดอร์ลานาเก่งในการเล่าเรื่อง เขาเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ เขาเล่าเรื่องชีวิตนิรันดร์ ตำนาน การผจญภัย ข้าให้นักบวชจดบันทึกเรื่องทั้งหมดไว้ แต่เมื่อถึงเรื่องอาวุธวิเศษที่หายไปคัลมาร์ก็ห้ามเขาพูดต่อไป เย็นวันนี้เขาทังสองเข้าพบข้าที่ห้องทำงาน คัลมาร์เป็นเป็นผู้พูด
"ในรุ่งเช้าเราทั้งสองจะจากไป มันถึงเวลาสมควรแล้ว"
"อันที่จริงก็อยากอยู่ต่อนะ แต่พวกพ้องของเรากำลังจากไปดูเหมือนเขาจะไม่รอเราเสียด้วยสิ"
ดอร์ลานาพูดอย่างเสียดาย
"พวกท่านช่วยเหลือเราไว้มากมาย จนเราไม่สามารถหาสิ่งที่เหมาะสมมาตอบแทนได้ "
"มิเป็นไรดอก สหาย เราทำทุกอย่างด้วยหน้าที่ต้องกระทำ ข้าขอมอบสิ่งนี้ให้ท่านมันจะเป็นประโยชน์แก่พวกท่านในภาคหน้า"
คัลมาร์พูด พร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้แก่ข้า
"นี้คือแบบแปลนสิ่งประดิษฐ์ของข้า"
ข้าได้แต่มองเขาด้วยความปลาบปลื้ม พวกเขาเดินออกจากห้องไป
รุ่งเช้าพวกเขาก็ไม่อยู่ในห้องพักแล้ว ข้าและชาวบ้านจึงร่วมมือกันสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรน์แก่เผ่าเอลฟ์ นี้จะเป็นสัญลักณ์แห่งการช่วยเหลือจากพวกเขา
b-564074.jpg
 
แก้ไขล่าสุด:

godeye

New Member
คะแนน react
0
เอลฟ์มันต้องอย่างนี้แหละถึงจะถูกต้องที่สุดท่านdarkulสุดยอด


เริ่มมีอนุสาวลีย์แล้วสินะ อาวุทธวิเศษคืออาวุทขุนพลชัวเลย แจ่มมากครับ
โรงตีเหล็กสร้างเสร็จแล้ว แบบแปลนคือที่สำหรับวิจัยกองกำลังสินะเก็บรายละเอียดและผสมผสานได้ดีมากเลยครับ
 

darkul

Member
คะแนน react
0
wowa008OYI2I60wxg.jpg

-ขอบคุณครับที่ติดตามผลงาน ช่วงนี้ขอเวลาไปทำรายงานก่อน
งานเยอะเหลือเกิน เอารูปไปดูเล่นก่อนนะ
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
ภัยคุกคาม
ขณะที่ข้าออกตรวจการสร้างกำแพง ทุกอย่างดูว่าจะเรียบร้อยดี แต่พบสิ่งผิดปกติที่พุ่มไม้บนยอดเขาที่เราทำเหมืองเหล็ก ข้าขอธนูจากทหารแล้วเล็งไปยังพุ่มไม้นั้น ข้ากลั้นใจครูjหนึ่งแล้วปล่อยสายรั้ง ลูกศรพุ่งไปยังเป้าหมาย ไร้เสียงร้องแต่มีการเคลื่อนไหว
"หน่วยธนูยิงตามข้า"
ห่าธนูหลายสิบดอกยิงตามข้าไปที่นั้น ข้าและทหารจำนวนหนึ่งเร่งฝีเท้าไปยังตำแหน่งนั้น ข้าพบชายสองคน คนหนึ่งบาดเจ็บอีกคนตายเสียแล้ว จากร่องรอยพวกมันมีไม่ต่ำกว่าสิบคน รอบๆยังพบแผนที่หยาบๆของหมู่บ้านข้า บันทึกการเปลี่ยนเวรยามทหาร
"เอามันไปสอบปากคำ ทำทุกอย่างให้มันพูด ส่วนศพนั้นจัดการฝังสะ"
แม้ข้าไม่ชอบวิธีทรมานแต่พวกเขาย่อมมีเจตนาไม่ดีกับหมู่บ้านข้าอย่างแน่นอน จากการสอบสวนทำให้ทราบว่าพลสอดแนมพวกนี้มาจาก Fany Fany Fany Tiffany SOSHI ซึ่งปกครองโดย l3al3yg ข้าร่างจดหมายประท้วงทันที ใจความว่า

""คุณทำการสอดแนมด้วยเหตุผลอะไรครับ ช่วยชี้แจงด้วย
หากไม่ชี้แจง ผมจะถือว่าคุณมีเจตนาจะรุกรานผม
ด้วยความกรุณาอย่างยิ่ง""

หลังจากนั้นไม่นาน l3al3yg ก็ตอบจดหมายมา ใจความว่า
""กรุณา เล่น เกมอย่างมีความสุข
นี่ คือ เกมสงครามนะครับ ไม่ใช่เกมSIM
กรุณา ทำความเข้าใจซะใหม่
ทุกคนต่างมีจุด ประสงค์ต่างกัน
ผมไม่สามารถบอกได้
ถ้ายังไง ก็ ขอเชิญเข้ามาบุก ด้วยนะ ครับ
ผม จะตั้งรับอย่างเติมความสามารถ
ไม่ให้ คุณผิด หวัง
เราจะรอคุณ ei ei T-T
บ๊าย บาย""

ข้าไม่สบายใจต่อเหตุการณ์นี้ ข้าไม่สามารถนิ่งเฉยได้ คนของข้ายังไม่พร้อมที่จะรับมือ ข้ามีทหารไร้ประสบการณ์ ข้าคงต้องจ้างทหารรับจ้างเสียแล้ว
14988528
 
แก้ไขล่าสุด:

DeletedUser

Guest
โดนสอดแนมแล้วเหรอคับ พยายามเข้านะครับเดี๋ยวผมขอลองเช็กพิกัดหมู่บ้านคุณดูก่อนถ้ามีจริงเดี๋ยวผมส่งกำลังทหารไปช่วยครับ
ป้องกันหมู่บ้านให้ได้นะครับผมอยากอ่านตอนต่อไป
 

godeye

New Member
คะแนน react
0
ผมส่งไปแล้วนะครับอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่ก็น่าจะพอทำอะไรได้บ้าง
 

darkul

Member
คะแนน react
0
ไม่ต้องส่งมาครับ ผมไม่ได้หวังประโยชน์จากเรื่องนี้ เรื่องที่ผมแต่งมีเรื่องจริงอยู่ไม่ถึงครึ่ง พงศาวดารคือการเขียนประวัติศาสตร์โดยการเข้าข้างตัวเอง
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
ผมขอให้ถอนกำลังกลับนะครับ มันจะเป็นการเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่น
 

darkside

New Member
คะแนน react
0
ยอดขุนศึกเมืองพ่าย
ผู้อพยพยังคงเข้ามาที่เมืองเป็นระยะ ทำให้เรามีปัญหาในการรักษาความปลอดภัย มีข่าวทหารกองร้อยหนึ่งตั้งแคมป์ที่ชายป่าห่างไป20ไมล์ ทำให้ข้าหนักใจยิ่งกว่าเดิม แล้วข้าก็ต้องแปลกใจเมื่อพบนายทหารผู้หนึ่งรอข้าอยู่ที่ห้องโถง
"เรียนใต้เท้า ข้า เฟเรนซ์ ปุสกาส ขุนพลแห่งมอสการ์สที่ล่มสลาย"
นายทหารนั้นคุกเข่าแนะนำตัวแล้วก็พูดต่อไป
"ข้านำทหารที่แตกพ่ายจากสงครามสุดท้ายแห่งอาณาจักร และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเข้าสวามิภักดิ์ต่อท่าน"
"ที่นี้เป็นเพียงเมืองบ้านนอกเล็กๆไม่เหมาะกับท่านหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าครองแคว้นทั้งหลายคงยินดีอุปถัมภ์ยอดขุนศึกอย่างท่าน"
"ข้าทราบชื่อเสียงของท่านและเจ้าเมืองอื่นๆดี คนของข้ากำลังอดตาย"
"ไม่ต้องพูดต่อแล้ว ข้าจะให้พำนักที่นี้จนท่านต้องการจะจากไป"
ข้ามิอาจให้ชาวบ้านต้องตายเพราะความดื้อรั้นของข้า และ เฟเรนซ์ ปุสกาส ก็เป็นขุนศึกฝีมือดี เป็นที่ทราบดีว่ามอสการ์สตั้งอยู่ระหว่างมหาอำนาจสักวันต้องโดนกลืน แต่เขาทำให้มอสการ์ดอยู่มาได้นานกว่าที่หลายฝ่ายคาด
วันรุ่งขึ้น เฟเรนซ์ ปุสกาสนำทหารที่บาดเจ็บและชาวบ้านเข้าสู่ประตูเมืองท่ามกลางการต้อนรับที่ดีจากข้า
"ข้าขอสาบาน ข้าจะเป็นดาบให้ท่านฟาดฟันศัตรู ข้าจะเป็นโล่ห์รองรับศาสตราวุธให้ท่าน ข้าจะซื่อสัตย์ต่อท่านจวบจนชีวิตข้าดั[สูญ"
เฟเรนซ์ ปุสกาส ประกาศอย่างหนักแน่นต่ออนุสาวรีย์ ณ ใจกลางเมือง
gladiator_l-jpg.jpeg
 

godeye

New Member
คะแนน react
0
ข้าขอชื่นชมในความมีเกียรติและเที่ยงตรงของท่านถ้าเช่นนั้นขอให้ท่านโชคดี

แต่ว่าทหารผมส่งไปแล้วคงต้องรอให้ทหารผมไปถึงเมืองก่อนนะครับถึงจะถอนกำลังได้
 

darkul

Member
คะแนน react
0
งบทหาร
เมื่อ เฟเรนซ์ ปุสกาส เข้าร่วมกับเราแล้ว ข้าก็ให้ตำแหน่งแม่ทัพแก่เขา การเรียกเขาว่าแม่ทัพนั้นเพื่อให้เกียรติแก่เขา เนื่องจากเรามีทหารเพียงสองร้อยนายเท่านั้น แต่ที่มอสการ์สเขาคือผู้ยิ่งใหญ่เกียรติประวัติมากมายเกิดขึ้น ทันทีที่แว้นแคล้นต่างทราบข่าวเขาเข้าร่วมกับข้า ดูทุกอย่างง่ายขึ้น ทหารของเราก็ดูคึกคักเข้มแข็งนับแต่เขาเข้าฝึกทหาร ดูเป็นเป็นทหารอาชีพมากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ อาวุธ เกราะถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ในหมู่ชาวบ้านที่เขาพามามีช่างดาบฝีมือดีอยู่ด้วย โดยทุกอย่างแลกมากับงบประมาณที่เยอะพอสมควร มีข่าวลือว่าเขาเอางบมากมายไปสร้างหน่วยลับเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวของเขา พวกนักบวชไม่ค่อยมีใครชอบเขามากนัก เนื่องจากชาวบ้านดูจะเคารพเขามากกว่าผู้ดูแลศาสนา
ขณะที่ข้ากำลังอ่านเอกสารการเทียบเชิญเข้าพันธมิตรจากนครรัฐต่างที่ห้องทำงาน ซึ่งเมื่ออ่านดูแล้วไม่มีความจริงใจต่อข้าเลย รัฐต่างๆพยายามดึงเมืองของข้าไปเป็นรัฐกันชนระหว่างกัน ระหว่างนั้นเฟเรนซ์ ปุสกาสก็เข้าอย่างไม่ให้เสียงจนข้าตกใจ
"เฟเรนซ์ ท่านมาไม่ให้เสียง ทำเอาข้าตกใจ มีอะไรรึไม่ "
"ขออภัยท่านลอร์ด ข้ามีเรื่องอยากพูด"
เขาโค้งตัวอย่างนอบน้อมแล้วยืนตัวตรงอย่างองอาจสมชายชาติทหาร
"เชิญท่านพูดตามสบาย ข้าวางใจท่าน"
"ขอบคุณ ข้าเห็นว่าทหารที่นี้ยังน้อยเกินไปที่จะดูแลตัวเอง ยิ่งเมื่อเร็วๆนี้เราเพิ่งโดนสอดแนมใช่หรือไม่ ข้าคิดว่าเราควรเพิ่มการเกณฑ์ทหาร เพื่อที่เราจะสามารถปกป้องชาวเมืองได้"
"แต่ท่านใช้งบประมาณไปมากมายก่อนหน้านี้ และข้ามาที่นี้ไม่ใช่เพื่อสร้างรัฐทหาร ท่านอย่าลืมประชาชนที่นี้ส่วนใหญ่คือผู้ลี้ภัยสงคราม พวกเขาคงไม่ชอบใจที่จะเห็นทหารเดินอยู่ทุกที่ในเมือง"
"อย่างงั้นท่านเลยละเลยความปลอดภัยของชาวเมืองรึ เราต้องเข้มแข็งกว่านี้เพื่อปกป้องทุกคน"
เฟเรนซ์พูดเสียงเข้มดังขึ้นเล็กน้อย แต่สีหน้ายังราบเรียบอยู่ เขาทำให้ข้าจนด้วยเหตุผลของของเขา
"ท่านต้องการอีกเท่าไร"
นายทหารผู้ยิ่งใหญ่ยื่นเอกสารชี้แจงงบประมาณให้กับข้า มันมากเกินไปสำหรับเมืองเล็กๆเช่นเรา
"เฟเรนซ์ ข้าให้ครึ่งหนึ่งของท่านต้องการ ข้าไม่สามารถให้มากกว่านี้ ข้ายังต้องสร้างโรงทานเพิ่มอีกสองหลัง แล้วก็ยังมีกำแพงเมืองอีก แล้วก็ยังมี..."
"งั้นที่เหลือข้าคงต้องหาเอง "
เขาพูดออกมาเบาๆ แต่ข้าพอฟังจับใจความได้
"ข้าขอตัวลา ท่านลอร์ด"
เขาโค้งแล้วหันหลังเดินไปที่ประตู
"ช่วงนี้มีข่าวหนาหูเกี่ยวกับท่านนะ เฟเรนซ์"
ข้าพูดตามหลังเขาไป เขาหันกลับมาแล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่นเข้มแข็ง
"ข้าคือนักรบ แล้วข้าก็สาบานว่าข้าจะซื่อสัตย์ต่อท่าน"
เฟเรนซ์ ปุสกาส โค้งให้ข้าอีกครั้งแล้วก็เดินออกจากห้อง
PLATE6BX.JPG
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
ขอเสริมครับ หลังจาก เฟเรนซ์ ปุสกาส เข้าร่วมกับ drakul ได้สักพัก drakul ก็สถาปนาตนเอง ขึ้นเป็น Lord Dekerich Darkula เนื่องจากพลเมืองมีมากขึ้น เพื่อให้ง่ายแก่การปกครอง
 
บน