พงศาวดารของ darkul

darkul

Member
คะแนน react
0
บทสนทนา
บท เดวอน โวห์เลน ดอลาน่า
ที่ชานระเบียบปราสาทที่พำนักของLord Dekerich Darkula
ทำไมข้าต้องมายืนเฝ้ายามที่ด้วยนะ ถ้าเพื่อนมันไม่สบายข้าก็ไม่ต้องมายืนหลังแข็งแบบนี้หรอก อีกแค่ครึ่งวันก็หมดเวรละ ครึ่งวันเชียวนะ
"ท่านทราบไหมไอ้ทหารเมืองแตกนั่นมันมาของบเพิ่มอีกแล้ว ท่านเห็นเป็นเช่นใด"
"ข้าเห็นว่าจะจริง ที่เขาว่ามันแอบสร้างหน่วยส่วนตัว เจ้านี่มันมีแผนไม่ดีแน่นอน"
"มิทราบได้หรอกท่านคาดินัล "
เดี๋ยวนี้พระไม่มีอะไรทำแล้วรึไงถึงมายืนนินทาคนอื่นแถวนี้ นั่นท่านปุสกาสออกมาพอดีงานเข้าแล้ว
"สวัสดีท่านผู้ช่วยสังฆราชกับท่านคาดินัล เหตุใดท่านถึงมายืนตากลมหนาวอยู่ข้างนอกละครับท่าน"
นักบวชทั้งสะดุ้งเล็กน้อย
"ไม่มีอาไรหรอกเราเพียงต้องสูดอากาศให้เต็มปอดเท่านั้น"
ท่านคาดินัลเป็นผู้ตอบ
"อย่างงั้นข้าขอตัวลาก่อน ต้องรีบกลับไปฝึกพวกทหารใหม่ เจ้าพวกนี้มันขี้เกียจนัก ข้าไม่อยู่เสียคน มันก็เอาแต่นอนกัน ข้าเกือบลืมฝากความห่วงใยถึงท่านสังฆราชด้วย ตั้งแต่ท่านป่วยไปดูเหมือนจะมีเมฆหมอกร้ายปกคลุมศาสนจักรไปทั่ว ข้าลาละครับ"
ทันทีที่ท่านปุสกาสพูดจบ นักบวชทั้งสองก็ทำสีหน้าขมึงตึงเดินเข้าตัวปราสาทไปทันที ข้าชักทวนเข้าชิดลำตัวเปิดทางให้ท่านปุสกาส ขณะที่ท่านปุสกาสเดินผ่านท่านก็พูดขึ้น
"หลังจากเลิกเวรเจ้าไปรอข้าที่ท้ายหมู่บ้าน ข้ามีงานให้เจ้าทำ"
"ครับ"
ข้าตอบเสียงดัง กระแทกอาวุธออกกลับสู่ท่าเดิม ท่าที่ข้าต้องทำไปอีกสี่ชั่วโมง
30807_300px-Spartan.png
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
ทลายซ่องโจร(1)
บท เดวอน โวห์เลน ดอลาน่า
หลังจากเลิกเวรข้าก็ที่ท้ายหมู่บ้านตามที่นัดหมาย ข้ามาถึงก็ถึงก็กำลังตรวจนับกำลังพลพอดี ข้าเข้าแถวตอนที่ห้าคนสุดท้าย
"เดวอนมาพอดี เท่านี้ก็ครบจำนวนแล้วครับท่านแม่ทัพ"
นายกองกัซรายงานต่อเฟเรนซ์ ปุสกาส
"ดีมาก ถ้าเช่นนั้นข้าขออธิบายเหตุที่ข้าเรียกทหารฝีมือดีที่สุดของเราทั้งห้าสิบนายมารวมตัวกัน"
ท่านแม่ทัพปุสกาสยืนเอามือไพล้หลังห่างจากแถวตอนประมาณห้าก้าว
"ห่างมาเมืองของเราไปทางตะวันออกประมาณห้าสิบไมล์ หน่วยม้าเร็วของเราได้แจ้งว่า มีชุมชนหนึ่งทำตัวเป็นซ่องโจรออกปล้นสดมถ์ชาวบ้านในละแวกข้างเคียงกับเรา ข้าเห็นสมควรที่จะทำการกวาดล้างพวกมันให้สิ้นซากไม่ให้เป็นภัยกับเราในภายหลัง พวกเจ้ามีคำถามหรือไม่"
ท่านปุสกาสมองกราดไปยังทุกคน แล้วใครบางคนก็เอ่ยขึ้น
"พวกมันมีเท่าไร แล้วแผนการเป็นอย่างไร"
"เป็นคำถามที่ดี พวกมันมีประมาณ100-120คน ส่วนแผนการให้นายกองกัซเป็นคนอธิบาย"
ขณะที่นายกองกัซกำลังอธิบาย ข้าสังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวที่ชายป่าข้าสังเกตุอยู่สักครู่ก็เลิกสนใจเมื่อนายกองกัซพูดถึงข้า
"ส่วนเจ้าเดวอนฝีมือดาบและธนูของเจ้าดีที่สุดให้เจ้ารับหน้าที่ลอบสังหารยามเฝ้าประตูค่ายแล้วเปิดทางให้พวกเราเข้าไป ทุกคนเข้าใจแผนใช่ใหม"
นายกองกัซถามกับทุกคน
"ครับ"
ทหารกล้าทั้งห้าสิบนายตอบอย่างพร้อมเพรียงยกเว้นข้า
"ดีมากทุกคน แยกย้ายได้นัดพบอีกที่ตอนเที่ยงคืน"
attachment.php
 
แก้ไขล่าสุด:
คะแนน react
0
คนอะไรทั่งแต่งเรื่องเก่งและขี่โม้ด้วย อยางนี้ หน้าจะเป็นคนเขียนหนังสือนะ แต่ก็สนุกดีรอ แต่เราก็รออ่านต่อนะ
 

darkul

Member
คะแนน react
0
ทลายซ่องโจร(2)
บท เดวอน โวห์เลน ดอลาน่า
ในเวลาเที่ยงคืนทุกคนมารวมตัวกันที่เดิม สรรพวุธต่างๆจัดไว้เรียบร้อย ข้าเลือกที่จะใช้หน้าไม้สั้น ดาบสองมือ และเกราะหนังเบาเพื่อความคล่องตัว ได้เวลาออกเดินทาง เรามีม้าอยู่สามสิบตัว หลายตัวต้องรับน้ำหนักสองคน นายกองกัซเรียกให้ไปกับเขา ท่านแม่ทัพถือตะเกียงนำขบวนเพื่อให้ท้ายขบวนไม่ในคความมืด คืนนีมีแสงจันทร์อ่อนๆ ระหว่างทางนายกองกัซอธิบายแผนให้ข้าฟังอีกครั้ง
"แม่ของเจ้าเคยบอกไหมว่าพ่อของเจ้ามันเป็นใคร"
เป็นคำถามที่ให้ข้าอึ้ง หลังจากจากที่เขาอธิบายแผนจบ ข้าคิดไม่ถึงว่าเขาจะสนใจกับเรื่องนี้
"หยุด!!!"
เสียงทำให้ข้าโล่งใจที่ไม่ต้องตอบคำถาม แม่ทัพปุสกาสส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด เราหยุดอยู่ที่ชายป่าห่างจากค่ายประมาณหนึ่งร้อยเมตร หลังจากเฝ้าดูสถานการณ์อยุ่ครู่หนึ่ง นายกองกัซส่งสัญญาณให้ข้าลงมือ ข้าและพวกอีกสามคนย่องไปยังโขดหินขนาดใหญ่ฝั่งซ้ายของค่าย มียามอยู่บนกำแพงฝั่งนี้สี่คนพอดีกับเรา ข้าเล็งหน้าไม้ไปยังคนที่อย๋บนหอสูง ลูกดอกเข้าที่ลำคอตรงคอหอยไร้เสียงร้องใดๆ ส่วนอีกสามคนก็โดนจัดการเรียบร้อยเช่นกัน เราใช้ตะขอเหล็กมัดปลายเชือกที่เตรียมไว้แล้วโยนขึ้นไปบนกำแพง แล้วใช้เชือกนั้นปีนไต่ขึ้นบนกำแพง แล้วเราก็ลอบเข้าไปจัดการกับยามฝั่งขวาซึ่งมีสี่คนเหมือนกัน ข้าเข้าข้างหลังใช้มือซ้ายปิดล้อมไปปิดปากมัน มือขวาใช้มีดสั้นแทงเข้าที่หน้าอก ส่วนอีกสามใช้ธนูจัดการแต่มีคนหนึ่งพลาด เจ้าคนที่อยู่หอสูงโดนเข้าที่หัวไหล่ ข้ารีบดึงหน้าไม้มายิงซ้ำอีกที แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว มันลั่นระฆังเสียงทำให้มีเสียงดังเอะอะจากในค่าย เราต้องรีบเปิดประตูค่ายให้เร็วที่สุด มีเสียงธนูแหวกอากาศผ่านหน้าข้าไป ทำเอาข้าล้มตึง ต้องรีบไปเปิดประตูแล้ว ทันทีที่เปิดประตูค่ายได้กองม้าก็ห่อทะยานเข้ามาทันทีเข้าปะทะกับพวกโจรที่วิ่งเข้ามา
"ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด"
ท่านแม่ทัพตะโกนสั่งทุกคน ในการรบถึงแม้พวกโจรจะมีเยอะกว่าแต่ไม่อาจสู้ทหารอาชีพที่ฝึกมาอย่างดีได้ แต่ในกลุ่มโจรมีชายผู้หนึ่งสูงใหญ่กว่าใครขี่ม้าตะหง่านอยู่ข้างหลัง เขายิงธนูออกไป มีเสียงแหวกอากาศดังเหมือนสายฟ้าฟาด ลูกศรทะลุร่างทหารของเรารวดเดียวสามคน ข้าไม่เคยเห็นใครยิงธนูไดรุนแรงเท่านีมาก่อน ข้าบุกทะลวงเข้าไปหมายปลิดชีพชายผู้นั้น ข้ากะโดดเอาดาบแทงเข้าที่หน้าของเขา แต่เขากลับเอาด้ามธนูฟาดข้าล้มกลิ้งไปกับพื้น เขาลงจากหลังม้าเดินชี้ดาบมาที่ข้า ขณะที่เขาง้างดาบกำลังฟันข้า ลูกธนูสามมดอกก็ปักที่ขมับ คอ และชายโครงฝั่งซ้ายของเขา ชายผู้นั้นล้มลงทันที ชายรูปงามผู้หนึ่งเข้ามาฉุดข้าให้ลุกขึ้น
"ดูไม่จืดเลยนะ ไอ้ลูกชาย"
"ลูกชายรึ???"
นายกองกัซเข้ามาโค้งคำนับให้แก่เขา
"ท่านดอร์ลาน่า ข้ายินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง"
attachment.php
 
แก้ไขล่าสุด:

sb55688

ผู้เข้าแข่งขัน TWM-SC2012
คะแนน react
0
-*-
กำลังสนุก อย่าพรึ่งจบ อยากรู้ว่า จะเหลือทหารกลับ เมือง กี่คน และเสียทหารเท่าไร

เรื่องละเอียดสวย งาม ครับ ชอบ แนวนี้
 

darkul

Member
คะแนน react
0
จับกุมเฟเรนซ์
บท เดวอน โวห์เลน ดอร์ลาน่า
ชายผู้นั้นจ้องมองข้าอย่างแปลกประหลาด ข้าไม่คิดว่าจะได้รับสายตาแบบนี้จากผู้ชายด้วยกัน และเขาเพิ่งบอกเขาว่าเป็นพ่อของข้าทั้งที่ตัวเขาเองดูอ่อนเยาว์ไม่ได้แก่กว่าข้าสักเท่าไร ให้ตายสิเจ้าหมอนี้ดูจะสติไม่ดีเสียแล้ว นายกองกัซเดินเข้ามาหาชายรูปงามผู้นั้นแล้วโค้งคำนับพร้อมกับเอ่ยคำทักทาย ข้าคิดว่าเขาไม่ได้ยินที่เจ้าหมอนี้พูดกับข้า พวกกองโจรดูเหมือนจะยอมแพ้ทันทีที่ชายยักษ์ลง หลายคนทรุดเขาลงกับพื้น บางก็ทิ้งอาวุธ มีบางคนร้องไห้คร่ำครวญ
"ไอเซนช์ตัดท์!!!... ข้าบอกว่าจะติดตามท่านไปทั้งชีวิต ทำไมท่านรีบตายนัก"
ชายผู้หนึ่งตะโกนออกมา ยังเหลือฝืนสู้อยู่อีกสี่ห้าคน สักพักพวกเขาก็ยอมจำนนทั้งหมด
"ไอเซนช์ตัดท์ รึ ยอดขุนพลแห่งมิดแลนด์ พอมิดแลนด์แตกก็รวบรวมผู้คนมาตั้งกองโจรนิเอง"
ท่านเฟเรนซ์พูดขึ้นมาลอยๆ แล้วเขาก็เดินเข้าสวมกอดดอร์ลาน่า
"เมื่อไรท่านจะแก่สะทีนะ สิบกว่าปีแล้วตั้งแต่ท่านแนะนำข้าให้เข้าสวามิภักดิ์ต่อ Lord Dakerich Drakula ข้าก็ไม่พบกับท่านเลย"
ท่านเฟเรนซ์ก็รุ้จักชายผู้นี้ด้วยรึ???
"เป็นธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ข้าอยู่แล้ว หวังว่าพวกท่านคงไม่อิจฉา แล้วท่าน darkul เป็นเช่นไรบ้าง"
"แข็งแรงดี มีเมตตาธรรม แต่ขี้ระแวง เก่งในการครองใจคน แต่อ่อนด้อยการทหาร"
"เพราะเหตุนี้ข้าถึงอยากให้ท่านไปช่วยเขา"
"ขอบคุณที่คิดว่าข้ามีประโยชน์กับเขา ข้าขอตัวไปตรวจไพล่พลก่อน"
ข้าเพิ่งสังเกตุว่าเขามีลักษณะต่างจากคนอื่นทั่วไป เขามีใบหูที่ยาวแหลมกว่าคนปรกติ อีกทั้งรูปร่างผิวพรรณสะอาดมาก ดูสำอางจนไม่น่าจะมาอยู่กลางป่าได้ ข้ามองไปรอบๆเพื่อดูความสูญเสียของฝ่ายเรา ข้าเห็นศพที่ถูกนำมานอนเรียงกันมีแปดศพ ข้าเกือบจะเป็นหนึ่งในนั้น หากไม่ได้ชายผู้อ้างว่าเป็นพ่อของข้าช่วยไว้
"การศึกย่อมมีการสูญเสีย เขาทั้งแปดคนเป็นทหารที่ดี พวกเขาสละชีวิตเพือความปลอดภัยของชาวเมือง และข้าอยากจะบอกว่าศัตรูจะมีมาให้สู้ทุกเมื่อ บางครั้งเราอาจจะเบื่อ แต่ไม่ใช่วันนี้ อย่าให้ทั้งต้องตายตายอย่างเสียเปล่า"
ท่านเฟเรนซ์ประกาศให้ทุกคนได้ยิน ทุกคนแม้ว่าจะเสียใจแต่ก็ดูเหมือนจะฮึกเหิม แต่ข้าฟังดูงงๆอย่างไรไม่รู้ พวกโจรเหลือคนอยู่สิบสี่คน ทั้งหมดถูกนำมานาบด้วยเหล็กเผาไฟที่หน้าอกด้านขวาป็นคำว่า "โจรสวะ" หลังนาบเหล็กเผาไฟแล้วเราก็ปล่อยตัวพวกเขาไป พวกเราเริ่มขนทรัพย์สินที่โดนปล้นมา มีรถเทียมม้าของพวกโจรอยู่
"ไอ้ลูกชาย รับนี้ไปสิ"
ดอร์ลาน่าโยนธนูที่ชายร่างยักษ์นั้นใช้ให้กับข้าโดยฟันอย่างมิดชิด
"ธนูอัสนีกัปนาท ตัวด้ามเป็นนวโลหะหายากเก้าชนิด สายรั้งทำมาจากเอ็นร้อยหวายมังกร เวลาที่เจ้าดึงสายรั้งมันจะนิ่มมาก แต่แรงดีดกลับรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ เสียงแหวกอากาศดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง อย่าบอกใครนะว่าข้าแอบเอามาให้เจ้า"
เขาพูดจบก็เดินไปขึ้นม้าตีคู่ไปนายกองกัซและท่านเฟเรนซ์ ได้เดินทางกลับเสียที
เราได้ม้าของกองโจรมาสิบกว่าตัว ทำให้ขากลับม้าของเราไม่ต้องรับภาระมากนัก ก่อนจะถึงประตูเมืองสักสองกิโลดอร์ลาน่าก็แยกตัวออกไป ในที่สุดก็ถึงเมืองเสียที ทันทีที่เปิดประตูเราก็แปลกใจเมื่อพบว่ามีคนรอต้อนรับเรา พร้อมด้วยทหารที่ยืนถือหอกชี้ชันขึ้นประมาณสามสิบองศา
"เฟเรนซ์ ปุสกาส!!! ท่านนำทหารออกปล้นสดมถ์หรอกรึ ข้าไว้ใจท่านแค่ใหน แต่ดูที่ท่านทำสิเฟเรนซ์ เจ้ามันบัดซบ"
Lord Dakerich Drakula คำรามลั่นท่าทางเขาโมโหมาก มีทหารเข้ามาล็อกตัวท่านเฟเรนซ์ ขณะที่ท่านกำลังเข้าไปคุกเข่าคำนับ
"อะฮ่า ขุนพลที่ยิ่งใหญ่ ที่แท้คือขุนโจรหรอกรึ"
เสียงผู้ช่วยสังฆราช ดังขึ้นพร้อมกับเดินแหวกทหารออกมา พวกข้ากระโดดพรรดหมายเข้าไปช่ายท่านเฟเรนซ์ แต่ท่านเฟเรนซ์ยกมือขึ้นห้าม
"ห้ามเข้ามา นี่แค่เข้าใจผิด ให้พวกเขาจับตัวข้าไป"
ขณะที่ทหารพาตัวท่านเฟเรนซ์ผ่านหน้าผู้ช่วยสังฆราช ท่านเฟเรนซ์ก็พูดขึ้น
"ท่านเล่นกับคนผิดแล้วลูเซีย"
ผู้ช่วยสังฆราชลูเซียผละถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อออกห่างจากท่านเฟเรนซ์
attachment.php
 
แก้ไขล่าสุด:

darkul

Member
คะแนน react
0
เงียบเหงา เงียบเหงา อยากฟังเสียงวิจารย์จัง อยากรู้ว่าเรื่องผมอยู่ในระดับใหน เหอ เหอ
 

DeletedUser

Guest
สนุกดีครับ

P.S. ภาพจาก mount&blade ใช่ไม๊ครับ เกมนี้ผมก็ชอบเล่น
ถ้า tribal เหมือนอย่าง mount&blade ก็ดีสิ ^^
 

darkul

Member
คะแนน react
0
ถูกต้องนะครับ ภาพจาก mount&blade หายากที่เดียวนั่งหาภาพในgoogle กว่าจะเจอแต่ละภาพ
 

darkul

Member
คะแนน react
0
ขอโทษครับ ต้นฉบับออกช้าหน่อย ทั้งทำงาน ทั้งเรียน เล่นเกมส์ด้วย เวลาเหลือน้อย ทำอะไรรัดตัวไปหมด
 

darkul

Member
คะแนน react
0
การยุแยง
บท Lord Dakerich Drakula
หลังจากที่เฟเรนซ์ออกจากห้องไปไม่นาน ข้าก็นั่งถามตัวเองว่าข้าทำถูกแล้วรึเปล่าที่ให้งบประมาณเท่านั้น แต่ข้ากำลังเฝ้าฝันถึงเมืองในอุดมคติ สาธารณูปโภคครบครัน ทุกคนจะอยู่อย่างสบายในเมืองของข้า ข้ากำลังจะก่อตั้งวิทยาลัย ปราชญ์จากแว้นแคล้นข้างเคลียงกำลังเดินทางมาที่นี้ เพื่อสร้างบัณฑิตผู้มีความรู้ความสามารถ ภายใต้ศาสนจักรทุกคนจะอยู่อย่างสงบสุข เมืองในฝันของข้า แต่ทุกอย่างต้องทอง สินแร่ทรัพยากรมากมายนัก และแผนการทหารของเขาก็กินงบเยอะเกินไป ข้าต้องตัดมันออก ข้าคิดว่าข้าทำถูกแล้วละ เพื่อประชาชนของข้า
"ขออภัยท่านลอร์ด ผู้ช่วยสังฆราชจิอันลูจิ ลูเซีย ขอเข้าพบครับ"
ทหารเฝ้าหน้าประตูเข้ามาบอกข้า ข้าพยักตอบรับ ก่อนที่เขาจะบวชเขาเป็นเพื่อนของข้าที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน เมื่อเขาเข้าสู่ศาสนาเขาติดต่อกับข้าน้อยลง เขาเดินเข้าช้าๆโค้งให้ข้าและข้าโค้งตอบ เขายกมือซ๊ายขึ้นข้างที่เขาสวมแหวนแห่งสังฆราชา แหวนทองกลัดด้วยนิลดำมัน แหวนประมุขตัวแทนองค์สังฆราช ข้าก้มลงไปจูบที่ตัวแหวน เพื่อสำนึกว่าข้านั้นคือบุตรของพระเจ้า
"ขออภัยท่านลอร์ดที่ข้าเสียมารยาท ข้าไม่ใช่องค์สังฆราชข้าไม่ควรทำแบบนี้กับท่าน"
"ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนเอ๋ย ข้าอยู่ใต้ร่มศาสนาและเจ้าก็เป็นตัวแทนของพระองค์ แล้วตอนนี้มีเหตุอันใดถึงมาหาข้าได้ "
ลูเซียมองหน้าข้าแล้วถอนหายใจ ดวงตาเขาเลื่อนต่ำลง
"ข้าคิดว่าท่านไว้ใจคนผิด ข้ามาเตือนท่านในฐานะเพื่อนรักเก่าแก่"
"ใครกันรึที่เจ้าว่าไม่ควรไว้ใจ"
"บุรุษผู้มาตัวเปล่า บัดนี้กลับมีอำนาจล้นมือ หากปล่อยนานไปมันต้องคิดทำการชั่วช้าเป็นแน่"
"เจ้าพูดอะไรก็ระวังมั้ง หากเจ้าหมายถึงเฟเรนซ์ "
"ท่านหลงใหลความสามารถของมันจนตามัวเสียแล้ว ท่านไม่รู้หรือจงใจละเลยสิ่งที่เขาทำกัน"
ลูเซียทำให้ข้าตัวสั่น ข้าโกรธ
"เจ้าไร้หลักฐานจะกล่าวหาใครได้ "
"หากท่านต้องการหลักฐาน รุ่งเช้าพรุ่งนี้ที่หน้าประตูเมือง ท่านต้องได้เห็นอะไรดีๆแน่ ว่ายอดขุนพลที่แท้คือขุนโจรปล้นสดมถ์"
"หาไม่เป็นจริงอย่างเจ้าพูด ต่อให้เจ้าเป็นองค์สังฆราช ข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย'
ข้าพูดไปด้วยด้วยความโมโห

smith-taylor-rebuking-priest.jpg
 
แก้ไขล่าสุด:
บน